!!! แว้น.....แว้น.....แว้น.....!!!

jb

Sr. Member
กระทู้: 473

เพศ:

« เมื่อ: 01 กรกฎาคม 2017, 16:58:27 »

เด็กแว้นรุ่นใหม่อาจจะไม่เคยเห็นของจ๊าบๆที่เด็กแว้นรุ่นเก่าเค้าใช้กันในสมัยก่อน 55555

ผมเลยนำของสะสมชุดนี้มาให้ชมกันครับ

ELECK RIDER มอเตอร์ไซค์บังคับวิทยุคันแรกของโลกที่มีจำหน่าย ผลิตโดย Kyosho วางจำหน่ายในปี 1979

มอเตอร์ไซค์คันนี้มาในเสกล 1/6 ใช้มอเตอร์ Mabuchi RS-380S แบตเตอรี่ 6V 1200mAh น้ำหนักรวมประมาณ 1350 กรัม
ทำความเร็วได้ประมาณ 20 km/h (มีชุดแต่งสำหรับ 7.2V ที่ทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็น 30 km/h)
สมัยแรกยังต้องใช้แบตเตอรี่AAอีก4ก้อนสำหรับรีซีฟเวอร์และเซอร์โวทั้ง2ตัว สปีดคอนโทรลที่ให้มาเป็นแบบแผ่นกรีดในยุคนั้น
หัวคนขับทำมาแบบโมเดลมีหน้ามีผม และมีหมวกกันน็อคแยกชิ้นกันมาครอบลงไปอีกที
ส่วนลำตัวคนขับทำมาจากผ้า ซึ่งมีซิปที่ด้านหน้าเปิดออกได้เพื่อเอาไว้ใส่รีซีฟเวอร์ตรงกลางลำตัว
ตรงช่วงแขนและขาด้านในมีท่อพลาสติกบางๆเหมือนหลอดงอ ทำให้ปรับงอได้ตรงข้อศอกและเข่า

โครงรถทำจากเหล็กพับขึ้นรูป มีห้องเกียร์ที่ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยโซ่ ล้อเป็นแบบซี่ทำจากอลูมิเนียม
ระบบกันสะเทือนเป็นแบบสปริงทั้งด้านหน้าและหลัง มีโครงลวดเหล็กกันล้มที่ด้านข้าง
บอดี้แบบ Cowling ทำจากพลาสติกใส รูปร่างเหมือนรถแข่งในยุคนั้น ผมว่ามันดูเหมือนกันกับ Honda MT125R

สิ่งที่ดูน่าสนใจที่สุดก็คือระบบเลี้ยวที่เรียกว่า Semi Direct Steering System (SDSS) ที่มีจุดหมุนที่คอในแนวตั้งเหมือนมอเตอร์ไซค์ปกติ
แต่เพิ่มจุดหมุนอีกอันตามแกนแนวนอน ทำให้ตะเกียบแกว่งไปซ้ายขวา (Roll) มีผลทำให้ตัวรถเอียงไปในทิศทางที่ต้องการเลี้ยว
ซึ่งมันก็เป็นระบบเลี้ยวแบบเดียวกันกับที่ใช้ในมอเตอร์ไซค์บังคับวิทยุของ Kyosho มาจนถึงยุคปัจจุบัน
ผมเพิ่งจะรู้ว่า Kyosho ใช้ระบบเลี้ยวแบบนี้มาตั้งแต่ปี 1979 ก็ตอนที่ได้คันนี้มาสะสม ผมล่ะนับถือคนที่ออกแบบระบบเลี้ยวอันนี้จริงๆ

Kyosho ทำรถออกมาอีก 2 แบบโดยใช้โครงอันเดียวกันนี้คือ Suzuki Katana (ในชื่อ Citirider) และ Harley-Davidson FLH-80
และยังมีเวอร์ชั่นที่เป็นเครื่องยนต์น้ำมันขนาด .10 ที่ทำความเร็วได้ถึง 50 km/h

มาถึงของสะสม 4 ชิ้นต่อมาครับ

Rothmans Honda NSR500 ที่ Wayne Gardner ใช้แข่ง GP ในปี 1986

Marlboro Yamaha YZR500 ที่ Eddie Lawson ใช้แข่ง GP ในปี 1987
เมื่อก่อนมีขายแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ผมชอบมากที่สุดล่ะลายนี้

Yamaha YZR500 Factory Team ปี 1986

Suzuki RGV ที่ Kevin Schwantz ใช้แข่ง GP ในปี 1988

Kyosho ผลิตมอเตอร์ไซค์รุ่นที่สองออกมาในปี 1988 สเกล 1/8 โดยจำลองมาจากรถแข่ง Grand Prix 500cc ในยุค 80
โครงรถรุ่นนี้ทำมาจากพลาสติกสองชิ้นประกบกัน มีห้องเกียร์ที่ส่งกำลังไปยังล้อหลังด้วยโซ่ ที่ล้อหน้าจะมี Flywheel อยู่ภายในยาง
หรือก็คืออลูมิเนียมหล่อขึ้นรูปเป็นวง ใส่ไว้เพื่อถ่วงน้ำหนักที่ล้อหน้า ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบสปริงกับ Friction Tube ใส่จารบี
ด้านหลังเป็นโช้คลมสปริงตัวเดียว มีโครงลวดเหล็กกันล้มที่ด้านข้าง บอดี้เป็นพลาสติกแข็งที่ทำมาได้สวยสมจริงเป็นอย่างมาก
ตัวคนขับต้องต่อด้วยกาวแล้วเป็นชิ้นเดียวกันทั้งตัว ยึดกับตัวรถด้วยเทปเวลโครที่ก้น
ให้มอเตอร์ขนาด 280 มาด้วย(DM20) ต้องใช้เซอร์โวขนาดเล็ก1ตัว และชุดสปีดคอนโทรลพร้อมรีซีฟเวอร์ในตัว
หรือไม่ก็ต้องหาสปีดและรีซีฟขนาดเล็กหน่อยเพราะช่องว่างมันเล็กมาก

Kyosho ได้ทำชุดแต่งออกมาขายด้วยเช่น โช้คน้ำมันทั้งหน้าและหลัง มอเตอร์ DMC20BB ที่แรงขึ้น และ Flywheel แบบน้ำหนักเบา
และก็มีอีกหลายยี่ห้อที่ทำชิ้นส่วนอลูมิเนียมออกมาขายด้วยเช่นกัน

มาถึงอีก 2 ชิ้นครับ

Honda NSR500 ที่ Wayne Gardner ใช้แข่ง GP ในปี 1991

Suzuki RGV ที่ Kevin Schwantz ใช้แข่ง GP ในปี 1992

รุ่นที่สามคือ HANG ON RACER ออกมาในปี 1992 สเกล 1/8 จำลองมาจากรถแข่ง Grand Prix 500cc ในยุค 90
ระบบขับเคลื่อนและกันสะเทือนเหมือนกันกับรุ่นก่อน ต่างกันเล็กน้อยตรงที่โช้คหน้ากลับด้านขึ้น ล้อกับยาง เฟืองและโซ่ใช้อันเดิม
ที่เปลี่ยนไปคือรูปร่างของโครงรถที่ทำให้ดูสวยงามขึ้น สิ่งที่เพิ่มเข้ามาและเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นนี้คือ คนขับที่โยกไปซ้ายขวาได้
มีข้อต่อแบบหมุนได้ที่ คอ หัวไหล่ ข้อศอก ต้นขาและหัวเข่า ทำให้ดูสมจริงมากเวลาเข้าโค้ง

รุ่นนี้ทาง Kyosho ได้ผลิตออกมาขายอย่างต่อเนื่อง จนในปี 2010 ก็มีรีโปรออกมา และในปี 2016 ก็มีรีโปรออกมาอีกรอบ
แต่ทำตัว RGV เป็นสีน้ำเงิน ตัว NSR500 ก็ทำมาแต่คันของ Doohan และมีสติ๊กเกอร์มาแค่หมายเลข 3
ตัวรีโปร 2016 นี้จะให้เฟืองโซ่ตัวในเป็นอลูมิเนียมมาด้วย

แม้ว่ารุ่นที่สามนี้จะดูสวยสมจริงมากว่ารุ่นสอง แต่เซียนฝรั่งเค้าบอกว่าถ้าใช้ชุดไฟเดียวกันแล้ว รุ่นสองจะทำเวลาได้ดีกว่า
อาจเป็นเพราะไม่มีชุดกลไกของคนขับเลยทำให้น้ำหนักเบากว่า และเลี้ยวได้นุ่มนวลกว่าโดยไม่มีการเหวี่ยงไปมาของคนขับ
สำหรับทั้งสองรุ่น สิ่งที่เค้าแนะนำให้เปลี่ยนก็คือโช้คน้ำมันทั้งหน้าและหลัง และถ้าใช้มอเตอร์บรัชเลสก็ควรเปลี่ยนเป็นเฟืองอลูมิเนียมทั้งหมด
และแน่นอนตลับลูกปืนทุกจุด บอดี้ของรุ่นสามเฉพาะชิ้นหน้ากับชิ้นใต้ท้อง สามารถเอาไปใส่กับโครงรุ่นสองได้ด้วยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 กรกฎาคม 2017, 21:55:18 โดย jb »

บันทึกการเข้า